สวัสดีเพื่อนๆทุกคน!! ผลสอบออกแล้ว ดีใจหรือเสียใจดีเนี้ย เหอเหอเหอ~~~

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

~วิธีทำให้เรียนเก่ง~


ข้อที่ 1. เพื่อนๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ

ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ

ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ

ข้อที่ 5.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง

ข้อที่ 6.นั้นงัยๆๆๆบอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!เพื่อนๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนน้องๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่พี่เฉลย น้องก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนน้องๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ

ข้อที่ 7.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าเพื่อนๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากเพื่อนๆจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ

ข้อที่ 8.ในการอ่านหนังสือ เพื่อนๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อเพื่อนๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้น้องๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)

ข้อที่ 9.นั้นแน่ๆ พี่รู้นะว่าน้องๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าพี่จะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าน้องๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ

ข้อที่ 10.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้น้องๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้น้องๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกพี่ให้น้องๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่น้องๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)

ข้อที่ 11.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย เพื่อนๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนเพื่อนๆคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวน้องๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะ

วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551



พืชผักสวนครัว
การปลูกพืชผักสวนครัว มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของชีวิตประจำวัน เพราะใช้เป็นอาหารในครัวเรือนได้ดี ถ้าปลูกมากมีเหลือก็จำหน่ายได้ และสามารถยึดเป็นอาชีพได้ ขอให้มีความยึดมั่นในธรรมชาติ มีความขยัน และอดทน การปลูกพืชผักสวนครัวมีหลักปฏิบัติ 5 ประการ
1.การเลือกเมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์มีความจำเป็นในการเริ่มต้นในการเพาะปลูก จึงควรศึกษาเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี แข็งแรง ไม่เป็นโรคง่าย คัดสรรแล้วเก็บรักษาไว้อย่างดีก่อนปลูก
2.การเตรียมดิน
คุณภาพของดิน จะเป็นตัวกำหนดการเจริญเติบโตของพืช การให้อาหารแก่ดินด้วยปุ๋ยชีวภาพจะทำให้ดินมีชีวิตและช่วยย่อยอินทรีย์วัตถุในดิน ให้ดินอุดมพร้อมแก่การเพาะปลูก
2.1แปลงใหม่ (ดินไม่สมบูรณ์)
-ถ้าดินแข็งมาก อาจใช้เครื่องจักรช่วยในการไถก่อน ยกแปลง
-ดินขาดอินทรีย์วัตถุ ควรแหวะท้องหมู ใส่ปุ๋ยแห้ง และรดด้วยปุ๋ยน้ำ
-ยกร่องให้สวยงาม โรยปุ๋ยแห้ง ตร.ม. ละ 1 กำมือ รดด้วยปุ๋ยน้ำ คลุมด้วยฟางไว้ 5-7 วัน ปลูกพืชด้วยเมล็ดหรือกล้า
2.2แปลงเก่า (ดินสมบูรณ์)
-หลังจากตัดผักหรือถอนผักออกแล้ว ถอนหญ้า ปรับปรุงแปลง (ไม่ต้องขุด) แล้วเริ่มต้นดังน
-ใส่ปุ๋ยแห้ง ตร.ม.ละ 1-2 กำมือ ใช้จอบสับเบาๆ ให้คลุกกับดิน
-คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง
-รดด้วยปุ๋ยน้ำ 1-2 วัน
-หมักไว้ 7 วัน ปลูกด้วยเมล็ดหรือกล้า
3.การปลูก
3.1การปลูกด้วยเมล็ด
-นำเมล็ดไปแช่ในน้ำจุลินทรีย์ ประมาณ 30 นาที หากผิวเมล็ดแข็งให้แช่นานหน่อย
-แหวกหญ้าหรือฟางที่คลุมออก
-ใช้ไม้กระดานหน้า 1/2 x 2 นิ้ว กดเป็นรอยลึก 1-2 เซนติเมตร
-หยอดเมล็ดตามรอยที่กดไว้
-คลุมฟางเหมือนเดิม
-รดน้ำเช้าเย็น
-2 วันแรกให้รดด้วยปุ๋ยน้ำช่วงเย็นวันละ 1 ครั้ง หลัง จากนั้น ให้รดปุ๋ยน้ำ 3 วัน / ครั้ง นอกนั้นรดน้ำปกติ
3.2ปลูกด้วยกล้า
-การเพาะกล้ามี 2 ชนิด คือ
-เพาะด้วยกะบะ
-อาจเป็นภาชนะสำเร็จรูป หรือใช้ไม้ 1/2 x 2 นิ้ว หรือวัสดุอื่น ทำเป็นกระบะขนาด 50 x 50 หรือ 50 x 70 หรือ 50 x 100 เซนติเมตร ให้สามารถยกย้ายและวางบนพื้นได้สะดวก
-ผสมปุ๋ยแห้งกับดินร่วน แกลบเผา อัตราส่วน 1 : 5 : 3 ลงในกระบะ
-หยอดเมล็ดหรือหว่านเมล็ดให้ทั่วอย่าให้แน่นเกินไป
-คลุมด้วยหญ้าแห้งหรือฟางบางๆ
-รดด้วยปุ๋ยน้ำให้ชุ่ม
-จากนั้นรดน้ำ เช้า-เย็น
-รดปุ๋ยน้ำช่วงเย็นติดต่อกัน 3 วัน หลังจากนั้นรดปุ๋ยน้ำ 3 วัน/ครั้ง
การเพาะในแปลง
-นำปุ๋ยแห้งและแกลบเผาผสมในดิน ในแปลง คลุกให้ทั่ว ทำหน้าดินให้ละเอียด
-หยอดเมล็ด หรือ โรยเมล็ด
-คลุมด้วยหญ้าแห้งหรือฟางแห้งบางๆ
-รดปุ๋ยน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง
-รดน้ำ เช้า - เย็น
-3 วันแรกรดปุ๋ยน้ำช่วงเย็นทุกวัน หลังจากนั้นรด 3 วัน/ครั้ง วันปกติรดน้ำธรรมดา
4.การดูแลรักษา
-ผักเกือบทุกชนิดเพาะกล้าก่อนปลูกจะดี เพราะถ้าให้ร่นระยะเวลาในการลงปลูก สามารถปลูกได้หลายรุ่น และดูแลรักษาง่ายยกเว้นพืชผักที่ย้ายกล้าไม่ได้ เช่น แครอท หัวผักกาด การปลูกด้วยกล้า ทำให้ประหยัดเมล็ดพันธุ์ได้ด้วย ดีกว่าปลูกด้วยเมล็ดแล้วต้องถอนทิ้งเมื่อผักแน่นเกินไป
-ปกติจะใส่ปุ๋ยแห้งครั้งเดียว แต่ถ้าผักมีอายุยาวเกิน 50 วัน ให้สังเกตว่าผักไม่สวย ไม่สมบูรณ์ ก็ใส่ปุ๋ยแห้งได้ระหว่างแถว ไม่ให้ถูกต้นพืชผัก
-การเตรียมแปลงดี ผักจะเจริญเติบโตเสมอกันทั้งแปลงผักต้นใดมีโรคให้งดน้ำ และรดด้วย EM สด ขยาย ผสมน้ำ 50 เท่า ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จึงให้น้ำต่อ
-ผักมีหัวให้ขุดแปลงลึกๆ แหวะท้องหมูบ่อยๆ และใส่ปุ๋ยแห้งผสมให้ดี
-การรดน้ำ ควรใช้บัวรดน้ำรูเล็กๆ ให้เป็นฝอยได้มากเท่าไรยิ่งดี
-ไม่ควรรดน้ำด้วยสายยางที่น้ำพุ่งแรงๆ จะทำให้ผักนอนราบ โดยเฉพาะผักกาดขาวจะห่อใบยาวขึ้นหากถูกน้ำซัดแรงๆ ทุกวัน
-พ่นด้วยสารไล่ศัตรูพืช หรือ สารป้องกันเชื้อรา ทุกๆ 3 วัน
ข้อสังเกตุ เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชโดยธรรมชาติ ควรปลูกผักกาดหอม ผักชีใบแหลม ปนกับผักอื่นๆ ปลูกต้นดาวเรือง ตะไคร้หอม ผกากรองไว้เป็นรั้ว และใช้ใบตะไคร้หอมมาคลุมแปลงผักจะป้องกันแมลงรบกวนได้ด้วย
5.การเก็บผลผลิต - การจำหน่าย
การเก็บผลผลิตควรดำเนินไปตามอายุของผักแต่ละประเภท และหาก ปลูกโดยใช้จุลินทรีย์ชีวภาพดังกล่าวข้างต้น ควรเก็บก่อนกำหนด เล็กน้อยเพราะ
ผักธรรมชาติเจริญเติบโตเร็ว
-ร่นระยะเวลาปลูก ลดแรงงาน และรายจ่าย
-หากเก็บช้าหรือเกินอายุทำให้ผักมีภูมิต้านทานต่ำเกิดโรคได้
-การเก็บควรใช้วิธีตัด ยกเว้นผักหัวใช้ถอน
-ผักที่เป็นผลควรเก็บอย่างปราณีต เพื่อให้โอกาสเกิดผลใหม่อีก เช่น ถั่ว แตง
-ผักทั่วไปเก็บแล้วล้างให้สะอาด บรรจุถุงเพื่อจำหน่าย
-ผักที่เป็นฝัก เช่น ถั่ว เก็บแล้วไม่ต้องล้าง ไม่ต้องพรมน้ำ
ข้อควรจำ
-ผักธรรมชาติทนทาน ขั้วไม่หลุดง่าย เหี่ยวยาก
-ไม่ต้องแช่สารเคมี
-น้ำพรมผักหรือแช่ผักควรผสม EM ด้วย
-ไม่ควรนำผลผลิตไปขายร่วมกับแผงผักเคมี จะทำให้เสียคุณภาพ ควรเปิดแผงผักปลอดสารพิษหรือผักธรรมชาติ เพื่อสะดวกต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภค สามารถ--รับรองคุณภาพและสามารถกำหนดราคาได้ดีในอนาคต
-ช่วงที่เหมาะสมในการปลูกพืชผัก
-กุมภาพันธ์ - เมษายน
- ผักชี หอม ผักบุ้งจีน ผักกาดหัว ถั่วฝักยาว แตงกวา มะระ ผักกาดเขียวปลี ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว
พฤษภาคม - กรกฎาคม
- ผักคะน้า กุยช่าย บวบเหลี่ยม ข้าวโพดหวาน หอมแดง
สิงหาคม - ตุลาคม(ปลายฝน)
- ผักชีลาว ผักโขม กุยช่าย ผักกาดขาว ผักกาดหอม พริก มะเขือเปราะ มะเขือยาว
ปลูกได้ทั้งปี
- ผักสวนครัวต่างๆ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ โหระพา แมงลัก ฯลฯ

ประวัติของวง bigbang


น้องเล็กของวง อีซึงฮยอน หรือซึงริ อายุ17ปี(ตามเกาหลี แต่นับแบบสากลอายุ15เท่านั้นเอง เนื่องจากเกิดปลายปี)ชื่อเปิดตัวในนามบิ๊กแบงคือ V มาจากคำว่า Victoryเหล่าทีมงานวายจีเรียกว่า 'มักเน' ที่แปลว่า คนเล็ก ทำหน้าที่ร้องนำ(แต่ดูไม่ค่อยได้นำเท่าไหร่ -_-)ซึงริเคยเข้าร่วมในรายการBattle Shinwha เพื่อการค้นหาชินฮวารุ่นที่2 แต่ถูกคัดออกไปในEpisodeที่13เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ถึงแม้จะเต้นเก่งมากๆ แต่การร้องเพลงยังใช้ไม่ได้แต่ท่านประธานของวายจีเห็นแวว จึงได้รับตัวเข้ามาฝึกหัดในสังกัดวายจี โดยท่านประธานได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ซึงริอายุยังน้อย และยังไม่เคยได้รับการฝึก เชื่อว่าถ้าได้รับการฝึกฝนจะต้องทำได้ดีความสามารถที่โดดเด่นของซึงริอยู่ที่การเต้นและการออกแบบท่าเต้น ที่ทำให้เพื่อนร่วมวงอ้าปากค้างมาแล้ว

smile angel คังแดซอง อายุ18ปี นักร้องนำอีกคนของวง หลายๆคนเห็นตอนแรกอาจจะยี้!!ไม่หล่อ ต้องฟังเสียงร้องค่ะ amazingมากกกกกแถมดูไปนานๆ แดซองจะดูดีขึ้นๆทุกที ด้วยบุคลิกที่ร่าเริง สนุกสนาน โดยเฉพาะรอยยิ้มสดใสจึงไม่แปลกที่หนุ่มแดซองเป็นขวัญใจของแฟนๆ มีทั้งเว็บคาเฟ่ที่แฟนคลับทำเฉพาะสำหรับแดซอง และมือของแดซองที่ต้องถือถุงนั่นหิ้วของขวัญนี่ทุกครั้งที่ไปโรงเรียนในตอนแรกที่เข้ามาออดิชั่นนั้นแดซองถูกทีมงานเรียกว่า 'พ่อคนน่าเกลียด' เนื่องจากความไม่หล่อนั่นเองแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทีมงานต่างยืนยันว่า แดซองเป็นคนที่ป๊อปปูล่าที่สุดคนนึงในวงเลยทีเดียวและในชีวิตนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ โดเรมอน นั่นเอง

หนุ่มหล่อพี่ใหญ่ของวง ชเวซึงฮยอน หรือหลายๆคนเรียกว่า Tempo ชื่อที่ใช้ในวงก็คือT.O.P.รุ่นพี่และสต๊าฟในค่ายเรียกเค้าว่า คึนซึงฮยอน แปลว่าbigซึงฮยอน (เนื่องจากบิ๊กแบงมีซึงฮยอน2คน)เทมโปมีหน้าที่เป็นrapperในวง เค้าเคยชนะการประกวดRap battleของKBS Radio เมื่อปี2003มีความสามารถในการทำบีทบ๊อก ที่ใครเห็นก็ต้องอึ้ง ทีมงานวายจีบอกว่า การทำบีทบ๊อกของเทมโปเหมือนกับเป็นงานศิลปะเลยทีเดียว!เทมโปเคยทำเพลงอินดี้ และเคยแสดงในคลับมาก่อนที่จะได้รับการชักชวนเข้ามาฝึกหัดในสังกัดวายจีเห็นหน้าหล่ออย่างงี้ แต่เป็นคนฮามาก กล้าทำอะไรอย่างชนิดที่ไม่เคยคิดว่าคนหล่อจะกล้าทำเลยทีเดียว

หนุ่มน้อยมาดเท่ห์ ทงยองแบ หรือ YBเทคควอน ของแฟนๆวายจี แต่มาคราวนี้เปิดตัวในฉายา แทยัง(แปลว่าพระอาทิตย์)เป็นเด็กฝึกหัดวายจีมา6ปี เช่นเดียวกับจียง มีประสบการณ์แจมกะรุ่นเดอะในค่ายมากมายเช่นเดียวกันยองแบนั้นตอนเด็กๆมีหน้าที่เดินสายแรพ แทนรุ่นพี่ที่ไม่ว่างขึ้นเวที ไปต่างประเทศ หรือขี้เกียจ! แต่ในวงบิ๊กแบงยองแบทำหน้าที่ร้องนำ เสียงหล่อ หวานสุดริด จนคนฟังงง (เพราะขัดกะหน้าม๊ากมาก)ภาพลักษณ์ภายนอกดูเท่ห์ เข้ม แต่จริงๆแล้วยองแบพูดน้อย ขี้อาย (ตรงข้ามกับจียงซึ่งพูดมากและไม่มีความอาย)ไม่กล้ามองตาผู้หญิง เขินกล้องอีกต่างหาก <3

หัวหน้าวง หน้าทะเล้น หน้าเป็น แป้นแล้น น่ารัก น่าหยิก ควานจียง หรือที่แฟนๆรู้จักในนาม GD หรือ G-dragon(ยง ในภาษาเกาหลีแปลว่ามังกร) อายุ 19 ปี เป็นเด็กฝึกหัดในสังกัดวายจีมาตั้งแต่อายุ 12เคยร่วมแจมกับรุ่นพี่ๆน้าๆลุงๆในค่ายทั้งในอัลบั้มและในงานคอนเสิร์ตมากมายออกแนวฮิพตั้งแต่เล็กแต่น้อย แรพเป็นไฟได้ตั้งแต่เด็กแต่งตัวเก่งมากกกกกก และรักการถ่ายรูป(ตัวเอง)เป็นชีวิตจิตใจเซนส์ด้านแฟชั่นเป็นเลิศ (ชอบใส่หมวก มีหมวกเป็นร้อย)นอกจากความสามารถด้านการแรพและบีทบอกซ์แล้ว จียงยังสามารถแต่งเพลงเองได้อีกด้วยโดยในซิงเกิ้ลแรกที่ออกมา จียงเป็นผู้แต่งเพลงThis Love และ We belong together ร่วมกับT.O.P.ชเวซึงฮยอน

ที่มาของคำว่า bigbang


Big Bang คำๆนี้ทำให้นึกถึงความหมายของคำว่า 'ระเบิด' และแน่นอนว่ามันจะต้องไม่ใช่ระเบิดลูกเล็กๆ แต่มันเป็นการระเบิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในจักรวาลนี้เลยทีเดียว
ในโลกของวงการบันเทิงเกาหลีที่ขยันผลิตนักร้องประเภทบอยแบนด์ ผิวขาว.. ตาโต.. จมูกและปากที่รับกันราวกับภาพวาด เป็นชายหนุ่มที่บางทีคำจำกัดความว่า 'หล่อ' อาจจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะพวกเขางดงามเกินกว่าที่จะใช้คำคุณศัพท์นี้มาใช้ขยายความได้
บนเวที พวกเขาทำได้ทั้งร้องและเต้น เพลงที่พวกเขาร้องนั้น ก็จะเป็นเพลงที่ถูกคัดสรรมาแล้วจากค่ายเพลงต้นสังกัดว่าฟังง่าย ดังง่าย ซึ่งแน่นอนว่าเพลงประเภทนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเพลงป็อบ เป็นเพลงแบบที่เป็นแพ็ทเทิลของความสำเร็จ ดังนั้น เมื่อมันเป็นเพลงที่ถูกกำหนดมาแล้ว หน้าที่ของพวกเขาก็คือการร้องและเต้นให้ออกมาเพอร์เฟ็คที่สุด
แม้ว่าความเพอร์เฟ็คนั้นจะหมายถึงการลิปซิงค์บนเวทีคอนเสิร์ตก็ตาม
นั่นแหละ คือ บอยแบนด์ แบบที่หลายๆค่ายเพลงภาคภูมิใจในความเป็น idol ของพวกเขา
แต่แล้ววันหนึ่ง.. อย่างไม่น่าเชื่อ จู่ๆ ก็มีบอยแบนด์อีกหนึ่งวงถือกำเนิดขึ้นมา
พวกเขาทั้ง 5 ไม่ได้มีหน้าตาที่โดดเด่นเหมือนกับบอยแบนด์ทั่วๆไป เผลอๆ เด็กหนุ่มหลายๆคนที่เดินสวนกันไปสวนกันมาแถวๆตลาดเมียงดงยังดูดีกว่าพวกเขาเลย
แต่อยู่ดีๆ พวกเขาก็ได้รับโอกาสหนึ่ง และได้ก้าวขึ้นสู่เวที เพื่อนำเสนอ 'ความสามารถ' ที่หลับไหลอยู่ในร่างกาย จิตใต้สำนึก ให้คนทั่วทั้งเกาหลีรู้ได้ว่า
แม้พวกเขาจะไม่ได้หน้าตาดีแบบไอดอลทั่วไป แต่พวกเขาก็มี 'ดนตรี' เป็นอาวุธสำคัญเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือเรียกสั้นๆ ว่าเยอรมันหรือเยอรมนี ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ คือเดนมาร์กอยู่ทางเหนือเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์กและฝรั่งเศสอยู่ทางตะวันตก สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียอยู่ทางใต้ สาธารณรัฐเชคและโปแลนด์อยู่ทางตะวันออก นับเป็นประเทศยุโรปที่มีจำนวนเพื่อนบ้านมากที่สุดนับตั้งแต่มีการรวมประเทศในปี ค.ศ. 1990 เยอรมันกลายเป็นประเทศสำคัญที่ไม่เพียงแต่เป็นตัวเชื่อมยุโรปตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน แต่ยังเชื่อมประเทศทางตอนเหนือ คือ กลุ่มสแกนดิเนเวียกับกลุ่มประเทศทางตอนใต้ ซึ่งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป เยอรมันจึงเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างประเทศในยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออก ยิ่งกว่านั้นการที่มีที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ยังทำให้เยอรมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยวแถบนี้เยอรมันมีพื้นที่ประมาณ 357,000 ตารางกิโลเมตร พรมแดนทางตอนเหนือของประเทศติดกับฝั่งทะเลเหนือ (North Sea) และทะเลบัลติค ทางตอนใต้จรดเทือกเขาแอลป์ในบาวาเรียน ระยะทางส่วนที่ยาวที่สุดจากเหนือจรดใต้ประมาณ 876 กิโลเมตร จากตะวันตกไปตะวันออกประมาณ 640 กิโลเมตร ภูมิประเทศของเยอรมันมีทิวทัศน์งดงามแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ ทั้งเทือกเขาสูงต่ำสลับกับที่ราบสูงและพื้นที่ลดหลั่นเป็นชั้น เนินเขาทะเลสาปตลอดจนที่ราบโล่งกว้างใหญ่ ทางตอนเหนือเป็นแนวชายฝั่งทะเลเต็มไปด้วยเกาะแก่ง ทะเลสาบ ท้องทุ่งที่มีพุ่มไม้ปกคลุม เนินทราย และบริเวณปากแม่น้ำที่สวยงาม ส่วนทางตอนใต้แถบที่ราบสูงชวาเบียน-บาวา เรียงเต็มไปด้วยเนินเขาและทะเลสาปขนาดใหญ่ มีบริเวณครอบคลุมถึงเทือกเขาแอลป์ในส่วนของเยอรมัน
แผนที่ประเทศเยอรมัน

มาเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเบื้อต้น

อักขระภาษาฝรั่งเศส (L'alphabet français)
a อา

b เบ
c ท์เซ
d เด
e เออ (ห่อปาก)
f แอ็ฟ
g เช
h อาช
i อี
j ฌี
k กา
l แอล
m แอ็ม
n แอ็น
o โอ
p เป
q กูว์
r แอร์
s แอส
t เต
u อู
v เว
w ดุบเบลอะเว
x อิกซ์
y อีแกร็กซ์
z แซด

สระ (Les voyelles)
ได้แก่ a,e,i,o,u,y นอกนั้นเป็นพยัญชนะ (Les consonnes) H (อาช) แบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่ H muet และ H aspire
1.H muet เช่นในคำว่า l'hopital โรงพยาบาล**เมื่อคำใดขึ้นต้นด้วย H muet แล้วมี articles definis (le, la, les)นำหน้า จะต้องลดรูป le, la เป็น l'ในการอ่านจะต้องอ่านเชื่อมเสียงกัน
2.H aspire เช่นในคำว่า la haie รั้วต้นไม้**เมื่อคำใดขึ้นต้นด้วย H aspire แล้วมี articles definis (le, la, les)นำหน้าไม่ต้องลดรูป และไม่ต้องอ่านเชื่อมเสียง

การทักทาย
Bonjour บงฌูร์ สวัสดี
Je m'appelle.... เฌอ มาแป็ล ฉันชื่อ
Comment allez-vous? กอมอง ตาเล่ วู? คุณสบายดีหรือ
Je vais bien. เฌอ เว เบียง ฉันสบายดี
Et vous? เอ วู? แล้วคุณล่ะ
Merci แมร์ซี่ ขอบคุณ
Merci beaucoup แมร์ซี่ โบกู ขอบคุณมาก
A bientot อา เบียงโต แล้วพบกันใหม่

ภาษารัก ภาษาฝรั่งเศส

Bonjour ......... Bonjour..........วันนี้เรามีสำนวนภาษาฝรั่งเศสว่าด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆฝากนะ
เริ่มกันที่สำนวนสุดคลาสสิกตลอดกาลนะ
Je vous aime beaucou.(เฌอ วู แซม โบกู) - ฉันรักคุณมากนะ
หรือเอาแบบภาษาชาวบ้านนะ คือ Je t'aime - ฉันรักเธอ
และหลายครั้งเมื่อเราห่างเหินคนรักเราก็ต้องรู้สึกคิดถึงเป็นเรื่องธรรมดา ใช้สำนวนนี้เลย
Je pense beaucoup a toi (เฌอ ปองส์ โบกู อา ตัว) - ฉันคิดถึงเธอมากนะ สามารถใช้ได้กะทุกคนนะ
และอีกสำนวนนะสุดโรแมนติกเลย คือ
Je t'aime a l'infini (เฌอ แตม อา แลงฟีนี)- ฉันรักเธอตลอดกาลหรือรักเธอชั่วนิรันด์
อ้า.............จะบอกรักใครก็อย่าลืมช็อกโกแลตเป็นของฝากคนรักสักชิ้นด้วยนะ ความรักจะได้หวานหอมดุจช็อกโกแลต สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ละกัน เจอกันคราวหน้าค่ะ Au revoir.............


ภูมิศาสตร์

รูปแผนที่ในปัจจุบันของประเทศฝรั่งเศส


ประวัติประเทศฝรั่งเศสประเทศฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกโกลในศตวรรษที่ 1จากนั้นตกมาอยู่ใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ (ชื่อประเทศ France มาจากคำว่าแฟรงก์เช่นกัน) ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่มีบันทึกว่าเริ่มในศตวรรษที่ 5 เมื่อพระเจ้าชาร์ เลอมาญตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 843 ก็มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี
ราชสำนักฝรั่งเศสขึ้นสู่จุดสูงสุดในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งในยุคนี้ฝรั่งเศสได้เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป และมีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจศิลปะ และ วัฒนธรรม ต่อยุโรป เป็นอย่างมากฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึงการปฏิวัติ ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1792 จึงเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ หลังจากนั้น “นโปเลียน โบนาปาร์ต”ได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิและรุกรานประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เมื่อนโปเลียนพ่ายแพ้ ฝรั่งเศง จึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง เรียกว่า “ยุคสาธารณรัฐที่สอง” แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลุยส์ นโปเลียน หลานลุงของนโปเลียนได้ยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิที่สองอีกครั้งตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสมีพื้นที่ใหญ่มากโดยช่วงที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงยุคทศวรรษที่ 20 ถึง 30 ซึ่งมี กว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นจักรวรรดิอันดับสองของโลกรองมาจากจักรวรรดิอังกฤษฝรั่งเศสได้รับความบอบช้ำอย่าง หนักจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ปัจจุบันใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตย แบบที่มีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี (เรียก ยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศส และ เยอรมนีเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้งประชาคมยุโรปซึ่ง พัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบันฝรั่งเศสยังเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติ และเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองรูป แผนที่ปัจจุบันของประเทศ ฝรั่งเศส รูป แผนที่ซึ่งแบ่งเขตตามรัฐของประเทศฝรั่งเศส





ประวัติประเทศฝรั่งเศส



ฝรั่งเศส หรือชื่อทางการ คือ สาธารณรัฐฝรั่งเศสซี่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรป ตะวันตก มีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโก อันดาร์รา และสเปนนอกจากั้นประเทศฝรั่งเศสยังเชื่อมกับสหราช อาณาจักรทางด้านทะเลด้วย ฝรั่งเศสนั้นเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรป นอกจากนั้นปัจจุบันประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวประมาณ75 ล้านคนซึ่งมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ประเทศนี้ถือได้ว่าเป็นผู้นำเลยทีเดียวนั่นก็คือเรื่องของแฟชั่นนั่นเอง คุณพร้อมจะไปเที่ยว กับเราแล้วหรือยัง??? ถ้าพร้อมแล้วคลิกเข้ามาได้เลยช้อปปิ้งฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเทศฝรั่งเศสและคิดว่่าในชีวิตนี้ต้องไปเยือนฝรั่งเศสให้ได้นั่น คุณได้เข้ามาถูกทางแล้วเนื่องจากเรากำลังจะพาคุณไปรู้จักข้าวเครื่องใช้ที่เลื่องชื่อในประเทศฝรั่งเศสกานนนน.....น้ำหอม นี่คือสิ่งแรกที่คุณคิดจะซื้อจากฝรั่งเศสอย่างแน่นอน เพราะประเทศนี้นั้นมีชื่อเสียงในการทำน้ำหอมอย่างมาก ฝรั่งเศสนั้นมีชื่อเสียงในด้านการผลิตน้ำหอมที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโลกเลยทีเดียวใครไปเที่ยวฝรั่งเศสก็มักจะซื้อยี่ห้อที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับแล้วราคาจะถูกกว่าที่นำมาขายในต่างประเทศมาก เมืองที่มีชื่อเสียงและมีโรงงานผลิตหัวน้ำหอมกลิ่นต่าง ๆได้แก่ เมืองกราส ทางตอนใต้ของประเทศ ยี่ห้อน้ำหอมที่ขึ้นชื่องที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับได้แก่ Christian Dior , Civenchy, Rochas, Guerlain, Paco Rabanne เครืื่่่องสำอาง เครื่องสำอางนานาชนิด นับตั้งแต่ครีมบำรุงผิว แป้งฝุ่น ลิปสติก อายแชโดว์ มาสคาร่า อายไลเนอร์ ฯลฯ ที่มีชื่อเสียงในเมืองไทย ล้วนผลิตในฝรั่งเศสกันทั้งน้น เช่น Lancome, Orlane, Yves Saint Laurent ฯลฯ
เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น ทุกคนรู้จักฝรั่งเศสดีในนามของดินแดนแห่งแฟชั่นชั้นนำ เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมของดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นต้นฉบับของแฟชั่น ทั่้วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของ Channel, YvesSaint Laurent, Nina Ricci, Guy Laroche, Pierre Cardin ฯลฯ กระเป๋าและเครื่องหนังที่มีชื่อเสียงสุดๆ และเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยก็คือ Channelและ Louis Vuittonเรียกได้ว่าถึงขนาดเข้าคิวกันซื้อเลยทีเดียวของที่ระลึกร้านขายของที่ระลึกในฝรั่งเศสมีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆและมักมีราคาแพงพอสมควร คือประมาณ 100 บาทขึ้นไปแต่ด้วยควารมสวยงามและยั่วยวนใจของนานาสินค้าหลากหลายอาจทำให้้นักท่องเที่ยวหลงลืมคิดเทียบเงินฟรังค์กับเงินบาทเลยที เดียว